ถ่ายรูปเก๋ๆ ก็ไม่นำพาค่ะ เรามาเพื่อรสชาติ

เปิดตั้งแต่เวลา 19:00 น. จนถึง 03:30 น.

ไม่มีความหรูหราแต่ก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะเมื่อหมี่ฮกเกี้ยนผัดในชามอร่อยขนาดนี้

ร้านอาหารที่ตั้งอยู่ในอาคารชิโน-โปรตุกีสอายุกว่าร้อยปี ซึ่งได้รับการบูรณะอย่างพิถีพิถันให้คงไว้ซึ่งเสน่ห์ดั้งเดิมของภูเก็ต

หากคุณกำลังมองหาร้านอาหาร ที่มีความเป็นพื้นเมือง ออร์แกนิก อร่อย และควบคู่ไปกับบรรยกาศอันแสนจรรโลงใจ "บ้านสวนใจเขียว" คือสิ่งที่คุณตามหา

จุดเริ่มต้นของ “Cherhouse Cafe’ Farm & More” นั้น มีที่มาจากทางครอบครัว ที่อยากสร้างพื้นที่ชุมชนเล็กๆ ที่สงบ, สามารถแลกเปลี่ยนความรู้, เป็นสถานที่จัดเวิร์คช็อป, กลมกลืนกับธรรมชาติ

โดยนำสิ่งที่มีอยู่ใกล้ตัว มาสรรค์สร้าง และ ต่อยอด เพื่อส่งต่อสิ่งเหล่านั้นให้กับคุณ ในรูปแบบของ “Cherhouse Cafe’ Farm & More” นั่นคือความรู้เรื่อง “เมล็ดกาแฟสายพันธุ์โรบัสต้า” ของคุณพ่อ

เริ่มตั้งแต่ การปลูก ตลอดจน ขั้นตอนการสร้างสรรค์เมนูสุดพิเศษให้กับคุณ

“Cherhouse Cafe’ Farm & More” มีความใส่ใจ และ พิถีพิถัน ในทุกขั้นตอนของกระบวนการผลิต เพื่อให้คุณได้สิ่งที่ดีที่สุด แถมยังมี “Community Workshop” เพื่อแลกเปลี่ยน หรือ ให้ความรู้ สำหรับคุณ ที่สนใจในเรื่องของ เกี่ยวกับการคั่วกาแฟ, การทำฐานสบู่, หรือแม้แต่การปรุงดิน

ก็สามารถติดต่อเข้าร่วมกิจกรรมกับทางร้านได้ และแน่นอน สิ่งที่เราอยากนำเสนอนอกเหนือไปจากกาแฟ นั่นคือ “โฮมเมด เบเกอรี่ (Homemade Bakery)” ที่ทั้งอร่อย และ สดใหม่ ให้ความรู้สึกอบอุ่นเหมือนอ้อมกอดแม่ในสมัยคุณยังเด็ก เมนูที่คุณพลาดไม่ได้เลย นั่นคือ “เค้กมะพร้าวอ่อน” ซึ่งถือว่าเป็น “Signature Cake” ของทางร้าน ตัวเค้กให้ความรู้สึกนุ่ม และมีความหอมหวานของมะพร้าวอ่อน ที่หากว่าคุณได้ลองแล้ว คุณจะ นิยามคำว่า “เค้กมะพร้าวอ่อน” ขึ้นใหม่ในใจได้ทันที

“กาแฟพิเศษ (Specialty Coffee)” ไม่ได้เป็นเพียงคำเรียกเมล็ดกาแฟคุณภาพสูง แต่คือปรัชญาที่ครอบคลุมทั้งในทุกๆ กระบวนการ ตั้งแต่การจัดหาแหล่งเพาะปลูก, การใส่ใจในกระบวนการแปรรูป, การคั่วที่ดึงศักยภาพของเมล็ดกาแฟออกมาได้อย่างเต็มที่ ไปจนถึงการชงอย่างประณีตโดยบาริสต้าผู้มากฝีมือ เพื่อให้ได้กาแฟรสชาติที่ดีที่สุดในแต่ละแก้ว การเดินทางของกาแฟพิเศษนั้นเต็มไปด้วยเรื่องราวและความทุ่มเท ซึ่ง “BABOON” ให้ความสำคัญกับทุกองค์ประกอบนี้อย่างแท้จริง

จุดเริ่มต้นของ “BABOON” นั้นมาจากความปรารถนาอันแรงกล้าของผู้ก่อตั้ง ที่ต้องการสร้างสรรค์พื้นที่ซึ่งเป็นมากกว่าร้านกาแฟ แต่เป็นศูนย์กลางของชุมชนคนรักกาแฟคุณภาพ ที่สามารถมาแลกเปลี่ยนความรู้ แบ่งปันประสบการณ์ และดื่มด่ำกับรสชาติกาแฟอันเป็นเลิศ โดยนำความเชี่ยวชาญและความหลงใหลใน “ศาสตร์แห่งกาแฟพิเศษ” มาเป็นแกนหลักในการสร้างสรรค์ทุกสิ่ง โดยเริ่มตั้งแต่การตัดสินใจลงทุนเปิด “โรงคั่วกาแฟ” ของตัวเอง เพื่อควบคุมคุณภาพตั้งแต่ต้นทาง สู่การรังสรรค์เมนูสุดพิเศษในทุกๆ แก้ว

“ที่นี่” ให้ความสำคัญสูงสุดกับความพิถีพิถันในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การคัดสรร “เมล็ดกาแฟเขียว (Green Beans)” จากแหล่งปลูกชั้นนำทั่วโลก เฟ้นหาเมล็ดที่มีโปรไฟล์รสชาติโดดเด่นและมีเรื่องราว จากนั้นนำมาผ่านกระบวนการคั่วด้วยวิธีการเฉพาะของทางร้าน เพื่อดึงเอาเอกลักษณ์ของกาแฟแต่ละตัวออกมาอย่างชัดเจนที่สุดโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญและมากฝีมือ นอกจากนี้สิ่งที่เราอยากนำเสนอนอกเหนือจากกาแฟดริปหรือเอสเพรสโซ่ช็อตที่สมบูรณ์แบบ ทางร้านยังมี เมนูซิกเนเจอร์ที่สร้างสรรค์ขึ้นอย่างมีเอกลักษณ์ เช่น “Decaf Cold Brew with Pistachio Cream” คือ เครื่องดื่มสำหรับผู้ที่ต้องการความสดชื่นและรสชาติที่ซับซ้อน ผสานด้วยความหอมมันของพิสตาชิโอครีมอย่างลงตัว แต่ปราศจากคาเฟอีน

บรรยากาศที่อบอุ่น, อาหารรสชาติต้นตำรับ, หากคุณกำลังตามหาสิ่งเหล่านี้ “โรงโกปี้ คาเฟ่ แอนด์ เบิร์ดเดย์เค้ก” มีทั้งหมดที่กล่าวมา

และนี่คือเหตุผลที่เราจะหยิบยกเรื่องราวของที่นี่มาเล่าให้ฟัง และจะพาคุณไปพบกับเสน่ห์ของวันวานที่คุณจะประทับใจไม่รู้ลืม

“โกปี้เตี่ยม” คือ คำเรียกวัฒนธรรมร้านกาแฟดั้งเดิมของภูเก็ต ที่ซึ่ง “โกปี้” เป็นภาษาจีนฮกเกี้ยนแปลว่ากาแฟ และ “เตี่ยม” คือร้านค้า

โกปี้เตี่ยมจึงเป็นมากกว่าร้านกาแฟ แต่เป็นดั่งสภากาแฟของคนท้องถิ่น เป็นศูนย์รวมผู้คนในชุมชนที่มาพบปะพูดคุย

จิบกาแฟโบราณรสเข้มข้นคู่กับปาท่องโก๋หรือขนมพื้นเมืองในยามเช้า วัฒนธรรมอันเรียบง่ายแต่อบอวลไปด้วยชีวิตชีวานี้ คือจิตวิญญาณและรากฐานที่สำคัญของ “โรงโกปี้”

หากคุณกำลังมองหาประสบการณ์การรับประทานอาหารที่พิเศษและไม่เหมือนใครในภูเก็ต ที่เป็นมากกว่าแค่มื้ออร่อย เรามีสิ่งที่น่าสนใจมานำเสนอ นั่นคือบรรยากาศที่เราเชื่อว่าจะสามารถเก็บเกี่ยวหัวใจและจิตวิญญาณของเกาะแห่งนี้ไว้ได้อย่างพิเศษ ร้านอาหารแห่งนี้มีชื่อว่า กันตา (Kanta) และเป็นมากกว่าแค่สถานที่สำหรับรับประทานอาหาร—แม้ว่าแค่นั้นก็ฟังดูดีแล้ว—แต่เป็นประสบการณ์ทางวัฒนธรรมที่ยอดเยี่ยม ซึ่งเราคิดว่าคุณจะพบว่ามันน่ารื่นรมย์และน่าหลงใหลอย่างแท้จริง

กันตาโดดเด่นและพิเศษอย่างยิ่งด้วยการผสมผสานรสชาติเพอรานากันโบราณเข้ากับความแปลกใหม่ที่คุณอาจไม่เคยพบมาก่อน คุณอาจทราบดีอยู่แล้วว่าภูเก็ตมีประวัติศาสตร์ที่ซับซับซ้อนและลึกซึ้ง และอาหารเพอรานากันก็เป็นรสชาติที่สมบูรณ์แบบที่สะท้อนถึงสิ่งนั้น มันคือมรดกทางอาหารอันน่าทึ่งที่สืบทอดมาจากวัฒนธรรม "บาบ๋า ย่าหยา" ในยุคแรกเริ่ม เมื่อพ่อค้าและคนงานเหมืองชาวจีนเดินทางมายังเกาะ พวกเขาได้ตั้งรกรากกับสตรีไทยท้องถิ่นและสร้างครอบครัว วัฒนธรรมของพวกเขาก็ผสมผสานกันผ่านหลายชั่วอายุคน พัฒนาเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่มีภาษาถิ่น สถาปัตยกรรม แฟชั่น และที่สำคัญที่สุดคืออาหารของตัวเอง อาหารเพอรานากันใช้ส่วนผสมที่ดีที่สุดจากมรดกการทำอาหารของจีน มาเลย์ และภาคใต้ของไทย เพื่อสร้างสรรค์อาหารที่มีความเข้มข้นที่ไม่มีใครเทียบได้ และมีรสชาติที่จัดจ้านอันเป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้โดดเด่นอย่างแท้จริง

กันตาไม่ได้เพียงแค่ปรุงอาหารเหล่านี้ แต่ยังเฉลิมฉลองมรดกทั้งหมดที่อยู่เบื้องหลัง คุณสามารถลิ้มรสความสมบูรณ์แบบและความใส่ใจในรายละเอียดที่ยิ่งใหญ่ในทุกสิ่งที่กันตาทำได้อย่างแท้จริง พวกเขาอุทิศตนอย่างลึกซึ้งให้กับความสดใหม่ ซึ่งเห็นได้ชัดเจนจากการดำเนินงานทั้งหมด เนื่องจากพวกเขาเป็นคนท้องถิ่นด้วย พวกเขาจึงสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดโดยตรงกับชาวประมงเพื่อลดพ่อค้าคนกลางและสามารถเสิร์ฟอาหารทะเลที่สดใหม่ที่สุด บางครั้งก็เป็นปลาที่จับมาใหม่ในวันเดียวกัน พวกเขายังมีการเยี่ยมชมตลาดท้องถิ่นนอกสถานที่สำหรับเชฟของพวกเขาเองเพื่อเลือกส่วนผสมที่สดใหม่ที่สุดด้วยตนเอง ยิ่งไปกว่านั้น เครื่องแกงและซอสทั้งหมดที่จำเป็นของพวกเขาก็ถูกทำขึ้นเองด้วยความรักตั้งแต่ต้น นี่คือความมุ่งมั่นที่ทำให้ทุกสิ่งแตกต่าง คุณสามารถลิ้มรสและสัมผัสได้จริงๆ

บรรยากาศของร้านอาหารมีเอกลักษณ์ไม่แพ้กับอาหารของพวกเขา ทันทีที่คุณก้าวเข้ามา คุณจะถูกพาไปอีกโลกหนึ่ง พวกเขาสร้างสรรค์บรรยากาศเขตร้อนที่ทันสมัยและประณีต ซึ่งทั้งงดงามและต้อนรับอย่างน่าทึ่ง ไม่ใช่บรรยากาศริมหาดทั่วไป แต่กลับนำความงดงามของพืชพรรณสีเขียวชอุ่มและดอกไม้อันหรูหรามาสู่ใจกลางเมือง ร้านอาหารทั้งหมดได้รับการออกแบบให้เป็นประสบการณ์ทางประสาทสัมผัสแบบครบวงจร ทุกแง่มุม ตั้งแต่การจัดจานอาหารที่สวยงามไปจนถึงแสงและการออกแบบ ได้รับการคิดมาอย่างดี มีบรรยากาศที่สวยงามตระการตาที่กระตุ้นให้คุณมีส่วนร่วมกับโลกรอบตัวคุณ—เป็นสถานที่ที่คุณจะต้องอยากถ่ายรูปอย่างแน่นอน!

จุดเริ่มต้นแห่งคุณค่า: โกโก้ไทยกับการพัฒนาชุมชน

เรื่องราวของ PARADAi เริ่มต้นขึ้นที่ย่านพระนคร กรุงเทพฯ เมื่อกลุ่มเพื่อนที่อยู่ในวงการอาหารมองเห็นขุมทรัพย์ที่ซ่อนอยู่ใน "ต้นโกโก้สวนหลังบ้าน" ของเกษตรกรไทย

พวกเขาไม่มองข้ามทรัพยากรท้องถิ่นนี้ แต่กลับเห็นถึงศักยภาพอันมหาศาล และตัดสินใจสร้างแผนธุรกิจที่ยั่งยืนด้วยการซื้อผลโกโก้โดยตรงจากครัวเรือนในหลายจังหวัด

เช่น จันทบุรีและนครศรีธรรมราช โครงการนี้ไม่เพียงแต่สร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับชุมชนเหล่านี้

แต่ยังเป็นแหล่งวัตถุดิบชั้นเยี่ยมที่จำเป็นสำหรับการทำช็อกโกแลตที่สวยงามด้วยทักษะและความเชี่ยวชาญระดับสูง